incognito mode คืออะไร? มีประโยชน์อย่างไร?
Key Takeaways:
- incognito mode คือโหมดในเบราว์เซอร์ที่ไม่บันทึกประวัติเว็บ คุกกี้ หรือข้อมูลการค้นหา
- เหมาะสำหรับการท่องเว็บโดยไม่ทิ้งร่องรอย ใช้ได้ในเบราว์เซอร์เช่น Google Chrome และ Firefox
- อุปกรณ์ทั้งคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนสามารถเปิดใช้งาน incognito mode ได้ง่าย ๆ
- incognito mode ลดการสะสมข้อมูลส่วนตัวแต่ไม่ปกป้องจากแฮกเกอร์ทั้งหมด
- ข้อมูลอาจยังคงถูกเห็นผ่านเครือข่ายหรือเว็บไซต์ที่เยี่ยมชม
- ควรใช้ incognito mode ในสถานการณ์ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวพิเศษ เช่นการใช้คอมพิวเตอร์สาธารณะ
- เบราว์เซอร์หลายตัว เช่น Opera, Safari, Firefox รองรับ incognito mode
- แอปพลิเคชันบางตัวก็มีโหมดไม่ระบุชื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว
ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน การรักษาความเป็นส่วนตัวออนไลน์เป็นสิ่งสำคัญมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ หนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มการเปิดเผยตัวตนออนไลน์ของคุณคือ "incognito mode" นั่นเอง แต่ incognito mode คืออะไรและมีประโยชน์อย่างไร? บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกว่าการใช้งานโหมดไม่ระบุตัวตนจะช่วยลดการสะสมข้อมูลการท่องเว็บได้อย่างไร และเปิดโปงความเข้าใจผิดอื่น ๆ เกี่ยวกับปลอดภัย เมื่ออ่านจบคุณจะมั่นใจในวิธีการใช้ในอุปกรณ์ต่าง ๆ ทั้งคอมพิวเตอร์และมือถือได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ!
incognito mode คืออะไร?
โหมดไม่ระบุตัวตนในเบราว์เซอร์
incognito mode คือโหมดที่ช่วยให้คุณท่องเว็บโดยไม่ต้องบันทึกข้อมูลต่างๆ โหมดนี้มีใน web browser หลายแบบ เช่น Google Chrome และ Mozilla Firefox หลายคนใช้มันเพื่อความเป็นส่วนตัวที่ดีขึ้น เมื่อใช้โหมดนี้ คุณจะไม่ทิ้งร่องรอยประวัติการท่องเว็บไว้ในคอมพิวเตอร์เลย
ความหมายของ incognito mode คือ
incognito mode คือโหมดท่องเว็บที่ไม่เก็บประวัติการค้นหา โหมดนี้ยังไม่บันทึกคุกกี้และข้อมูลใดๆจากเว็บที่คุณเข้าใช้ ซึ่งหมายความว่า คุณจะท่องเว็บโดยไม่เหลือร่องรอย รายละเอียดทั้งหมดอยู่แค่ในช่วงที่คุณยังเปิดใช้งานเท่านั้น
ข้อมูลที่ไม่ถูกบันทึกเมื่ออยู่ในโหมดนี้
เมื่ออยู่ใน incognito mode ประวัติการท่องเว็บ คุกกี้ และข้อมูลอัตลักษณ์ต่างๆ จะไม่ถูกบันทึก ข้อมูลการเข้าสู่ระบบจะหายเมื่อปิดหน้าต่างโหมดนี้ โหมดจึงเหมาะมากสำหรับการเข้าใช้เว็บบอร์ดหรือคอมพิวเตอร์สาธารณะ ข้อดีคือ ช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัว
ประโยชน์ของการใช้งาน incognito mode คืออะไร
ลดการสะสมข้อมูลการท่องเว็บ
incognito mode ลดการสะสมข้อมูลการท่องเว็บลงไปได้มาก มันเหมาะกับคนที่ต้องการความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวออนไลน์สูง การใช้โหมดนี้ช่วยให้คุณมั่นใจในการรักษาความลับข้อมูลส่วนตัว ความปลอดภัยในการใช้งานยังขึ้นอยู่กับการตั้งค่าเบราว์เซอร์ด้วยนะครับ
จะเปิดใช้งาน incognito mode ได้อย่างไร?
วิธีเปิดใช้งาน incognito mode ในเบราว์เซอร์ต่างๆ
คุณอยากรู้ว่า incognito mode คืออะไร? ง่ายมากครับ! มันคือโหมดไม่ระบุตัวตนในเบราว์เซอร์ เครื่องมือที่ดีเลิศสำหรับความเป็นส่วนตัว เมื่อเปิดโหมดนี้ มันจะไม่บันทึกประวัติ คุกกี้ หรือการค้นหาของคุณเลย
การเตรียมตัวก่อนเปิดโหมดไม่ระบุตัวตน
ก่อนเปิดทำอะไรก็ควรเชคให้แน่ใจว่า คุณไม่กำลังทำงานที่สำคัญ การเปิดใช้โหมดนี้จะไม่ย้ายข้อมูลใดๆ บางคนอาจจะสงสัยว่า เจ้าของ wifi รู้ไหมว่าเราเข้าเว็บอะไร? โหมดนี้จะช่วยได้ระดับหนึ่ง แต่ไม่ทั้งหมดนะครับ
วิธีเปิดแท็บไม่ระบุตัวตนใน Chrome
เปิด Google Chrome แล้วไปที่เมนูจุดสามจุดมุมขวาบน เลือก 'หน้าต่างใหม่ไม่ระบุตัวตน' แล้วเบราว์เซอร์จะเปิดแท็บใหม่ มองเห็นพื้นหลังสีเข้ม และไอคอนเอกชน มั่นใจได้เลยว่าคุณใช้ incognito mode อยู่จริงๆ
วิธีการเปิดใช้งานโหมดไม่ระบุตัวตนบนสมาร์ทโฟน
วิธีเปิดในระบบ Android
ใช้ Chrome บน Android ง่ายสุดเพียงแตะจุดสามจุดมุมบนขวา เลือก 'หน้าต่างใหม่ไม่ระบุตัวตน' พร้อมใช้งานได้แล้วครับ
วิธีเปิดในระบบ iOS
iPhone ก็ทำไม่ยาก เปิด Safari กดที่ไอคอน 'แท็บ' มุมขวาล่าง แล้วเลือก 'ไม่ระบุตัวตน' อย่าลืมเช็คจากพื้นหลังเข้ม ให้มั่นใจว่าเปิดโหมดนี้จริงๆ
เท่านี้แหละครับ การใช้โหมดนี้เหมาะมากเวลาใช้คอมพิวเตอร์ที่แชร์กับคนอื่น หรือเปิดหน้าเว็บที่ไม่อยากให้ใครรู้ ทำได้ง่ายๆ ไม่ซับซ้อนเลย!
incognito mode ทำงานอย่างไรและมีข้อจำกัดอะไร?
วิธีการทำงานของ incognito mode
incognito mode คือโหมดในเบราว์เซอร์ที่ไม่บันทึกประวัติเว็บที่คุณเยี่ยมชม ง่ายๆ คือ มันป้องกันไม่ให้เบราว์เซอร์เก็บข้อมูลของคุณ เพราะเบราว์เซอร์ส่วนใหญ่จะบันทึกประวัติการท่องเว็บ คุกกี้ และข้อมูลอื่นๆ เมื่อเปิดโหมดนี้ คุณใช้เบราว์เซอร์ได้โดยไม่ต้องกังวลว่าใครจะเจอการค้นหาและเยี่ยมชมเว็บของคุณ
วิธีการป้องกันการบันทึกข้อมูล
เมื่อคุณเปิด incognito mode เบราว์เซอร์ยกเลิกการบันทึกประวัติ ค้นหา และ cache การทำงานของมันคล้ายๆ กับการไม่สร้างไฟล์ประวัติใหม่ หากคุณออกจากโหมดนี้ ทุกอย่างที่คุณทำจะถูกลืมไป เบราว์เซอร์ทั่วไปใช้วิธีเก็บข้อมูลในเครื่อง แต่ incognito mode ปิดการทำงานนี้
เปรียบเทียบการทำงานกับเบราว์เซอร์ปกติ
เบราว์เซอร์ปกติจะบันทึกทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเว็บที่เยี่ยมชม การล็อกอิน หรือคุกกี้ แต่ใน incognito mode ข้อมูลเหล่านี้ถูกระงับ บางคนใช้ incognito mode เพื่อเข้าเว็บส่วนตัว หรือเมื่อแชร์คอมพิวเตอร์ เพื่อป้องกันการถูกเห็นประวัติเว็บ
ข้อจำกัดและข้อควรระวังในการใช้ incognito mode
incognito mode มีข้อจำกัด เช่น มันไม่สามารถปกปิดข้อมูลได้ทั้งหมด หากคุณเชื่อมต่อกับเครือข่ายผ่านเจ้าของ wifi เจ้าของ wifi รู้ไหมว่าเราเข้าเว็บอะไร บางคนคิดว่า incognito mode ปกปิดการกระทำทุกอย่าง แต่จริงๆแล้วยังมีข้อมูลบางอย่างที่ถูกบันทึก
ข้อมูลที่ยังคงถูกบันทึก
แม้ incognito mode จะไม่บันทึกประวัติในเครื่อง แต่เครือข่ายและเว็บไซต์ยังมองเห็นคุณ เว็บไซต์ที่คุณเยี่ยมชมอาจบันทึกข้อมูลได้ โหมดนี้จึงไม่ใช่วิธีรักษาความปลอดภัยทั้งหมด
ความเชื่อผิดเกี่ยวกับความปลอดภัย
หลายคนเข้าใจผิดว่า incognito mode คือการป้องกันทุกอย่าง แต่มันเพียงแค่ไม่บันทึกข้อมูลในเครื่อง และไม่ปกป้องจากแฮกเกอร์หรือการดักฟังข้อมูลออนไลน์ เรียกได้ว่าไม่สามารถป้องกันความเสี่ยงทั้งหมดได้ แต่ช่วยลดได้มากหากใช้ในสถานการณ์ที่เหมาะสม
เมื่อไหร่ที่ควรปิด incognito mode?
สถานการณ์ที่ควรปิดโหมดไม่ระบุตัวตน
หากคุณกำลังใช้งานเครื่องในที่สาธารณะ ควรปิดโหมดไม่ระบุตัวตนทันที หลังจากใช้เครื่องเสร็จ คุณไม่อยากให้ใครเห็นข้อมูลการค้นหาหรือข้อมูลส่วนตัวใช่ไหม? Incognito Mode ไม่ได้ป้องกันทุกอย่าง แต่ช่วยให้ข้อมูลส่วนตัวปลอดภัย คุณต้องระวังเมื่อแชร์เครื่องในที่ทำงาน เพราะระบบรักษาความปลอดภัยสำคัญ หากใครเห็นข้อมูลธุรกิจหรืออีเมลของคุณ มันอาจเป็นปัญหาใหญ่ได้
วิธีการปิด incognito mode คือทั้งบนคอมพิวเตอร์และมือถือ
การปิด incognito mode ง่ายมาก มาดูวิธีปิดในอุปกรณ์ต่างๆ เริ่มด้วยการปิดบนคอมพิวเตอร์ โดยใช้เบราว์เซอร์ทั่วไป เช่น Google Chrome คุณแค่คลิกปิดหน้าต่างเบราว์เซอร์ที่ใช้งาน ใน Mozilla Firefox ก็เช่นกัน วิธีนี้ทำให้ข้อมูลที่ไม่ต้องการเก็บหายไปบนเครื่องทันที สำหรับมือถือ Android ไปที่แอปเบราว์เซอร์ แล้วกดปิดหน้าต่าง Incognito ส่วน iOS ก็ทำตามขั้นตอนเดียวกัน ตอนปิดอย่าลืมเช็คหน้าต่างอื่นด้วย มันช่วยให้คุณมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล
มีเบราว์เซอร์อื่นที่สนับสนุน incognito mode หรือไม่?
incognito mode ในเบราว์เซอร์ที่เป็นที่นิยม
หลายเว็บเบราว์เซอร์รองรับ incognito mode คือ ซึ่งช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ผู้ใช้ได้ดีขึ้น ข้อมูลการท่องเว็บไซต์จะไม่ถูกบันทึก ทำให้คนส่วนใหญ่ไว้วางใจ เช่น Google Chrome เบราว์เซอร์ยอดฮิตที่หลายคนรู้จัก
ในเบราว์เซอร์อื่นอย่าง Opera ก็มี โหมดไม่ระบุตัวตนในเบราว์เซอร์ เช่นกัน ซึ่งสามารถบล็อกโฆษณาได้อัตโนมัติ Firefox ก็มี โหมดส่วนตัว ที่ทำงานคล้ายกัน โดยมีฟีเจอร์ติดตามการปิดกั้นอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยทางข้อมูลส่วนตัว
สำหรับ Safari ผู้ใช้ Mac หรือ iOS ก็ใช้ Private Window เข้าสู่ incognito mode คือ ที่บันทึกประวัติการใช้ให้น้อยที่สุด แต่ละเบราว์เซอร์มีฟีเจอร์ที่ช่วยป้องกันข้อมูลไม่เหมือนกัน
แอปพลิเคชันและเครื่องมือเสริมนอกเบราว์เซอร์
ไม่ใช่แค่เบราว์เซอร์ที่มี incognito mode คือเท่านั้น ยังมีแอปต่างๆ ที่สร้างโหมดไม่ระบุชื่อขึ้นมา ตัวอย่างเช่น แอปแชทบางชนิด ที่ให้คุยกันโดยไม่บันทึกประวัติ นอกจากนี้ แอปค้นหางานและดำเนินธุรกิจบางตัว ก็มีโหมดไม่ระบุตัวตนเช่นกัน
เครื่องมือเสริมเหล่านี้ช่วยผู้ใช้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวแบบพิเศษ สามารถใช้งานโหมดส่วนตัวได้ ซอฟต์แวร์ที่เน้นเพิ่มส่วนตัวนี้มักมีเพิ่มในแอปต่างๆ อย่าง JobsDB ที่แนะนำแอปจัดการงานด้วย AI ที่สามารถใช้โดยไม่บันทึกข้อมูลมากเกินไป ทำให้ค้นหางานได้ง่ายและปลอดภัย
สรุปincognito mode คือ
incognito mode คือเครื่องมือช่วยให้ท่องเว็บแบบไม่บันทึกข้อมูลสำคัญของเรา มันช่วยลดการสะสมข้อมูลและเพิ่มความเป็นส่วนตัว แต่ก็มีข้อจำกัดและไม่ใช่ว่าเป็นการปกป้องเต็มที่ เราควรเลือกใช้ในสถานการณ์ที่เหมาะสม เช่น ในที่สาธารณะหรือออฟฟิศ จุดสำคัญคือรู้จักเปิดและปิดโหมดนี้ในเครื่องมือที่เราใช้ เช่น Chrome หรือบนมือถือ ระบบ Android และ iOS การรู้ข้อจำกัดของ incognito mode คือสิ่งที่ต้องเข้าใจเพื่อการใช้งานที่ปลอดภัยและประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยีนี้