เครื่องมือ Keyword Research ฟรีที่คุณต้องลองหรือไม่?
Key Takeaways:
- เครื่องมือ Keyword Research ฟรี สำคัญใน SEO ใช้เลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสม
- Google Keyword Planner ใช้ดีแต่ข้อมูลจำกัดถ้าไม่ลงโฆษณา
- Google Search Console วิเคราะห์คีย์เวิร์ดและปัญหาเว็บไซต์
- Google Trends เข้าใจแนวโน้มคีย์เวิร์ด,ไม่มีข้อมูลการค้นหาจริง
- SEMrush วิเคราะห์คู่แข่งและคีย์เวิร์ดที่คู่แข่งใช้
- Ubersuggest ใช้ฟรี, 3 ครั้ง/วัน, บอกปริมาณการค้นหา
- Ahrefs เน้นลิงก์, มีข้อมูลค้นหา, ใช้งานง่าย
- KWFinder เหมาะกับ Long Tail Keyword ที่แข่งขันต่ำ
- Moz ให้ข้อมูลการวิเคราะห์คำยาก
- Keywordtool.io ใช้ฟรี, ไม่มีปริมาณการค้นหาในเวอร์ชันฟรี
ทุกเครื่องมือมีประโยชน์ เลือกตามความต้องการและกลยุทธ์ SEO ของคุณ.
การทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เครื่องมือ Keyword Research ฟรี สามารถเปลี่ยนเกมได้จริงๆ!“เครื่องมือ Keyword Research ฟรีที่คุณต้องลองหรือไม่?” สำรวจความสำคัญของพวกนี้และเห็นผลในไม่ช้า มันไม่เพียงช่วยให้คุณเห็นคำค้นหาที่ผู้ใช้งานจริงพิมพ์ลงใน Google แต่ยังเป็นกุญแจในการสร้างกลยุทธ์เนื้อหาที่ทรงพลังและแข่งขันได้ด้วย! นี่คือการเพิ่มโอกาสในการทำให้เว็บไซต์ของคุณโดดเด่นในสังเวียนดิจิทัลแบบไม่มีค่าใช้จ่าย!
บทนำเกี่ยวกับเครื่องมือ Keyword Research
เครื่องมือ Keyword Research ฟรี เป็นสิ่งจำเป็นในโลกการตลาดออนไลน์ ใช้ในการค้นหาคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมกับธุรกิจของตน การมีคีย์เวิร์ดที่ดีช่วยให้แสดงผลในหน้าแรกของ Google ได้ ง่ายขึ้น ข้อดีคือมีเครื่องมือฟรีให้เลือกใช้มากมาย ทั้ง Google Keyword Planner Google Search Console Google Trends SEMrush Ubersuggest Ahrefs KWFinder Wordtracker Scout Moz และ Keywordtoolio
Google Keyword Planner ช่วยวางแผนคีย์เวิร์ด แต่ต้องลงโฆษณา Google Ads ถึงจะเห็นข้อมูลจริง Google Search Console ช่วยวิเคราะห์คีย์เวิร์ดที่ผู้ใช้ค้นหา มักใช้ร่วมกับ Google Keyword Planner เพื่อดูปริมาณการค้นหา ส่วน Google Trends ให้ดูแนวโน้มคีย์เวิร์ด ใช้เมื่อคำค้นหาในกระแสบูม
SEMrush นั้นดีในการวิเคราะห์คู่แข่ง ดูว่าคีย์เวิร์ดใดคู่แข่งติดอันดับสูง และมีระดับความยากแค่ไหน Ubersuggest พัฒนาโดย Neil Patel ใช้ฟรีวันละสามครั้ง พร้อมข้อมูลปริมาณการค้นหาและความยาก Ahrefs ให้ข้อมูลปริมาณการค้นหาแบบฟรีและจ่ายเงิน KWFinder เหมาะกับการหา Long Tail Keyword ที่แข่งขันต่ำ
Wordtracker Scout เป็นส่วนขยาย Google Chrome ช่วยวิเคราะห์คีย์เวิร์ด Moz ใช้ Keyword Explorer เพื่อดูความยากในการแข่งขันและคลิกพร้อมคะแนน Priority Score สุดท้าย Keywordtoolio ใช้งานง่าย แต่เวอร์ชันฟรีต้องสมัครและไม่แสดงปริมาณการค้นหา
แต่ละเครื่องมือล้วนมีประโยชน์ในตัวเอง ผมเลือกใช้ตามความต้องการและงบประมาณ การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมเป็นก้าวแรกที่ดีในการทำ SEO หากใช้ได้ดี เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้เราวางแผนคีย์เวิร์ดได้เอง โดยไม่ต้องพึ่งบริษัท SEO
Google Keyword Planner
เครื่องมือ Keyword Research ฟรี จำเป็นสำหรับการทำ SEO อย่างจริงจัง หนึ่งในเครื่องมือที่เด่นของ ฉันคือ Google Keyword Planner ซึ่งเครื่องมือนี้มาจาก Google เอง มันช่วยค้นหาคีย์เวิร์ดให้อย่างแม่นยำ ฉันใช้มันเพื่อเช็คปริมาณการค้นหาต่อเดือนได้ง่าย
Google Keyword Planner มีข้อดีหลายอย่าง แต่มันมีข้อจำกัดด้วย เครื่องมือนี้ช่วยค้นหาคีย์เวิร์ดและดูแนวโน้มได้ แต่ต้องใช้งานร่วมกับ Google Ads เพื่อดูข้อมูลจริง ถ้าคุณไม่ลงโฆษณา ข้อมูลจะเป็นแบบประมาณการแทน
เครื่องมือจาก Google นี้ใช้งานสะดวก คุณเพียงแค่กรอกคำที่คุณคิดจะใช้ แล้วผลจะแสดงคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องมาหลายคำ ฉันชอบว่าเครื่องมือนี้ยังให้คำแนะนำอื่นๆ มันง่ายและมีประสิทธิภาพ
เป็นสำคัญที่จะแยกก่อนว่า Google Keyword Planner ไม่ใช่แค่สร้างฟังก์ชันค้นหาเท่านั้น แต่ยังช่วยในการวิเคราะห์คู่แข่งได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ฉันมักแนะนำให้ใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ เช่น Google Trends หรือ SEMrush เพื่อได้ภาพรวม
ด้วยเครื่องมือ Keyword Research ฟรีเช่นนี้ คุณจะสามารถปรับปรุงอันดับ SEO ของเว็บไซต์ได้ แต่มันต้องการข้อมูลและการใช้อย่างถูกวิธี ลองใช้ดู แล้วคุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์ SEO ของคุณ
Google Search Console
Google Search Console เป็นเครื่องมือหนึ่งที่ผมใช้บ่อยในงาน SEO ของผม เมื่อคุณถามว่า "Google Search Console ทำอะไรได้บ้าง?" คำตอบก็คือ มันช่วยวิเคราะห์และตรวจสอบคีย์เวิร์ดที่ผู้ใช้ค้นหาเข้าสู่เว็บไซต์ สิ่งนี้ทำให้คุณรู้ว่าความนิยมของคีย์เวิร์ดของคุณอยู่ที่ไหน และมันยังช่วยบ่งชี้ปัญหาต่าง ๆ ในเว็บไซต์อีกด้วย
ในแง่ของการใช้งาน Google Search Console ไม่ได้ต้องการค่าใช้จ่ายใด ๆ และเป็นการง่ายมากในการเริ่มต้นใช้งาน คุณเพียงแค่เชื่อมโยงเว็บไซต์ของคุณ และระบบจะเก็บข้อมูลต่าง ๆ ให้คุณ ในรายงานที่มี คุณจะเห็นคำค้นที่ทำให้ผู้ใช้เข้าสู่เว็บไซต์คุณ และยังมีข้อมูลความยาวคำที่แสดงผลเป็น percentile ที่ช่วยให้คุณรู้ว่าส่วนไหนของคำค้นที่กำลังได้ความนิยมสูง
สิ่งหนึ่งที่ควรระวัง Google Search Console ไม่มีข้อมูลปริมาณการค้นหาเหมือนโปรแกรมเช่น Google Keyword Planner หรือ Ubersuggest แต่ก็ยังมีประโยชน์ในการดูแนวโน้มของคำค้น สำหรับผู้ที่ต้องการทำ SEO อย่างจริงจัง ผมแนะนำให้คุณใช้ Search Console ควบคู่กับโปรแกรมอื่น ๆ ซึ่งจะให้ข้อมูลที่เต็มเปี่ยมยิ่งขึ้น
แม้ว่าคุณจะมีเครื่องมืออื่น ๆ ที่ใช้งานได้ดี Google Search Console ควรเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการวิเคราะห์ SEO ของคุณอยู่เสมอ คุณไม่เพียงแค่ได้ข้อมูลที่ละเอียด แต่ยังจะได้เห็นถึงภาพรวมของสุขภาพทาง SEO ของเว็บไซต์คุณอีกด้วย
Google Trends
Google Trends ช่วยเราเข้าใจแนวโน้มคีย์เวิร์ดในช่วงเวลาต่างๆ ได้ดีมาก แต่ไม่มีข้อมูลการค้นหาจริง Google Trends ไม่ให้เราเห็นตัวเลขจำนวนการค้นหา แต่ว่าเราเห็นกราฟการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของความสนใจในคำนั้นๆ แทน เรารู้ว่าคำค้นไหนบูมช่วงไหนแล้วนำไปวางแผนได้ ยกตัวอย่าง สมัครงาน ในเดือนมกราคม ความสนใจมักสูงขึ้น เราอาจใช้แนวโน้มนี้ช่วยในการวางแผนเนื้อหาหรือกลยุทธ์การตลาดล่วงหน้า Google Trends ยังดูว่ามีคำค้นใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในตลาดไหน อย่างช่วงการแพร่ระบาด COVID-19 ทำให้คำค้นเกี่ยวกับหน้ากากและออนไลน์บูมขึ้นมา และแน่นอนว่าเครื่องมือนี้เป็นหนึ่งใน "เครื่องมือ Keyword Research ฟรี" ที่พวกเราต้องลอง!
SEMrush
SEMrush ช่วยงาน SEO ได้มากครับ เป็นเครื่องมือยอดฮิตที่ใช้วิเคราะห์คู่แข่ง ตอนนี้ก็ใช่มันบ่อยๆครับ เพราะข้อมูลมันละเอียด ชี้ให้เห็นคีย์เวิร์ดที่คู่แข่งใช้ติดอันดับ ตัวเครื่องมือนี้บอกได้เลยว่าคีย์เวิร์ดไหนที่เจ๋ง และคีย์เวิร์ดไหนแข่งยาก
การใช้งาน SEMrush ง่ายมากครับ ผมชอบตรงที่เข้าใจง่าย ไม่ต้องเสียเวลางงกับเมนู ใน SEMrush พอกรอกชื่อเว็บคู่แข่งไป มันโชว์ข้อมูลละเอียด คีย์เวิร์ดที่คนนิยม คำไหนติดอันดับอยู่บ้าง
หนึ่งในฟีเจอร์ที่ผมเลิฟมากคือ "เครื่องมือวิเคราะห์คู่แข่ง" จริงๆ ทำให้รู้แผนการตลาดเขา เราก็เลยวางแผนได้ฉลาดขึ้น ข้อมูล SEMrush ช่วยให้ผมเห็นจุดที่คู่แข่งแข็งแกร่ง และจุดที่เราทำดีได้กว่า
ลอง SEMrush ซักครั้งครับ ถ้าต้องการดูคีย์เวิร์ดคู่แข่ง อย่างแม่นยำ ไม่ต้องเดา สนุกดีที่รู้ว่าเขาทำอะไร และปรับแผนของเราให้ดีขึ้นได้หลายขั้นนะครับ
เครื่องมือ Keyword Research ฟรีที่คุณต้องลองหรือไม่?
Ubersuggest
Ubersuggest คือเครื่องมือพัฒนาโดย Neil Patel ตัวนี้ช่วยสร้างสรรค์ keyword คุณใช้มันเพื่อค้นหา keyword ที่มีประสิทธิภาพ แค่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ หากใช้ไม่เกิน 3 ครั้งต่อวัน
หนึ่งในจุดเด่นของ Ubersuggest คือข้อมูลปริมาณการค้นหา นอกจากนี้ยังบอกถึงความยากในการแข่งขันของคำ คุณสามารถใช้เพื่อปรับแผนการตลาดได้ เมื่อรู้ว่า keyword ใดที่ควรใช้ คุณจะมีข้อได้เปรียบ
วิธีใช้ Ubersuggest นั้นง่าย แค่กรอกคำที่ต้องการในช่องค้นหา แล้ว Ubersuggest จะแสดงข้อมูลที่น่าสนใจให้ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้การวางแผนเนื้อหามีทิศทางที่ชัดเจน
เครื่องมือ Keyword Research ฟรี Ahrefs
เมื่อคุณนึกถึง เครื่องมือ Keyword Research ฟรี Ahrefs อาจจะอยู่ไม่ไกลในใจคุณ Ahrefs เป็นหนึ่งในที่นิยมมากสำหรับการวิเคราะห์ลิงก์ มันยังมีฟีเจอร์ Keyword Generator ที่ใช้งานง่าย คุณเริ่มจากคำหลักแล้วระบบจะแนะนำคำเสริมให้ เหมาะสำหรับนักการตลาดทุกคนที่ต้องการได้เปรียบจากการใช้คีย์เวิร์ด
Ahrefs ดีอย่างไร? มันมีความสามารถในการติดตามคำหลักและวิเคราะห์ลิงก์ที่คู่แข่งใช้ คุณจะเห็นชัดว่าใครกำลังแข่งกับคุณ ยังมีข้อมูลปริมาณการค้นหาที่ช่วยในการวางแผนกลยุทธ์การตลาด
Ahrefs เป็นมากกว่าเครื่องมือวิเคราะห์ลิงก์ มันเป็นหนึ่งในเครื่องมือหลักที่นักการตลาดต้องลอง คุณสามารถใช้มันเพื่อดูว่าคีย์เวิร์ดไหนมาแรง และยังเช็คคำที่คู่แข่งของคุณใช้ให้อยู่หน้าแรก
หลายคนอาจไม่คุ้นหูว่า Ahrefs นั้นใช้ฟรีอย่างไร ในการที่คุณไม่อยากจ่าย คุณสามารถทดลองแบบฟรีที่มีอยู่ได้ ของดีมันมีที่ต้องลองจริงๆ
เครื่องมือ Keyword Research ฟรีที่คุณต้องลองหรือไม่?
เครื่องมือ Keyword Research ฟรี KWFinder
KWFinder เป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับหา Long Tail Keyword ที่ดี โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องการค้นหา Keyword ระยะยาวที่มีการแข่งขันต่ำ มีความน่าเชื่อถือและใช้งานง่าย และมีความสามารถในการทำงานกับหลายภาษา โดยเฉพาะการค้นหาคีย์เวิร์ดในตลาดที่ไม่ใหญ่มากและต้องการคีย์เวิร์ดเฉพาะที่ไม่ได้แข่งขันสูง
KWFinder ช่วยหาคีย์เวิร์ดอย่างไร
KWFinder มีประสิทธิภาพในจุดเด่นของการค้นหา Keyword ระยะยาวที่ยากจะหา เมื่อเราต้องการคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมเพื่อใช้ในการทำ SEO และลดความยากในการแข่งขัน KWFinder จะช่วยในการระบุคำที่เหมาะสมอย่างรวดเร็วซึ่งช่วยการันตีว่าคุณจะพบคำที่เหมาะสมและแข่งขันได้ง่าย
โดยการใช้ KWFinder คุณสามารถเห็นข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความยากของการแข่งขันคีย์เวิร์ด พร้อมทั้งมีฟีเจอร์ที่ช่วยดูเครื่องหมายเรียนรู้เพื่อทำความเข้าใจถึงระดับการแข่งขันและศักยภาพของคีย์เวิร์ดที่ต้องการ คุณสามารถวิเคราะห์และเลือกใช้เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้อย่างชาญฉลาด
การใช้งานนี้ยังสะดวกด้วยการแนะนำคีย์เวิร์ดเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องที่อาจจะเป็นคีย์เวิร์ดที่คุณไม่เคยนึกถึงมาก่อน ทำให้ KWFinder ถือเป็นเครื่องมือที่ควรมีในมือตัวจริงของผู้ที่ต้องการพัฒนา SEO แบบยาวนานและยั่งยืน
Wordtracker Scout
คุณเคยเจอ "เครื่องมือ Keyword Research ฟรี" อย่าง Wordtracker Scout หรือเปล่า? ใช้ง่ายมากครับ! ติดตั้งเป็นส่วนขยายฟรีใน Google Chrome ได้เลย ผมว่า Wordtracker Scout มีประสิทธิภาพในการค้นหาคำที่มีการแข่งขันต่ำ คุณสามารถใช้มันในการสแกนเว็บไซต์ต่างๆ หาไอเดียคำหลักใหม่ๆ ได้ แน่นอนว่ามันคือ "เครื่องมือ Keyword Research ฟรี" ที่ดีจริง
พร็อพเพอร์ตี้ของ Wordtracker Scout ที่น่าสนใจคืออะไร? มันไม่มีการเน้นไปที่ปริมาณการค้นหา แต่จะเน้นคำหลักสำคัญแทน สะดวกไหมครับ? โชคดีที่ Wordtracker Scout เข้าใจความจำเป็นของการค้นหาคำหลักในทุกภาษา ซึ่งเป็นประโยชน์จริงๆ โดยเฉพาะในมุมของคนที่ทำ SEO แบบเอนกประสงค์
Wordtracker Scout ช่วยเราในด้านไหนได้บ้าง? การวิเคราะห์คำมีการแข่งขันต่ำเป็นเรื่องสำคัญในการทำ SEO นึกภาพสิครับ ถ้าคุณค้นพบคำที่คู่แข่งมีน้อย คุณจะมีโอกาสดีขึ้นในการขึ้นอันดับบน Google แต่นั่นไม่ทั้งหมดนะครับ การที่ Wordtracker Scout ไม่มีตัวเลขคาดการณ์ปริมาณการค้นหา หมายความว่ามันเหมาะกับผู้ที่ต้องการมุ่งเน้นการผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพสูง จากข้อมูลที่แน่นและการค้นพบใหม่ๆ
เพื่อความสำเร็จในการทำ SEO คุณควรใช้ Wordtracker Scout ควบคู่กับเครื่องมืออื่นๆ ครับ การใช้โปรแกรมเสริมอย่าง Google Keyword Planner หรือ SEMrush จะช่วยให้ข้อมูลที่สมบูรณ์และปรับกลยุทธ์ได้ทันใจ ยุทธศาสตร์นี้จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการแข่งขันของคุณครับ
ลองใช้ Wordtracker Scout เป็น "เครื่องมือ Keyword Research ฟรี" เพื่อค้นหาและทดสอบคำหลักที่สามารถพาคุณไปยังอันดับสูงใน Google พร้อมกับสร้างเนื้อหาที่ชัดเจนและมีคุณค่าให้กับผู้อ่านครับ!
เครื่องมือ Keyword Research ฟรี Moz
เครื่องมือ Moz ช่วยวิเคราะห์คำหลักอย่างละเอียด ใช้ดีในการวางแผน SEO คำถามที่เจอประจำคือ "Moz วิเคราะห์คำยากได้อย่างไร?" คำตอบคือ Moz คำนวณโดยใช้ข้อมูลการค้นหาและฐานข้อมูลการจัดอันดับ ค่าความยากจะบอกว่าแข่งขันมากแค่ไหน ทำให้เลือกคำที่ดีที่สุดได้
Moz ยังมี Keyword Explorer ช่วยเลือกคำหลัก มีฟีเจอร์ดูระดับการคลิกและคะแนน Priority Score ฉันใช้ Moz แล้วรู้สึกว่ามันให้ข้อมูลเยอะ ช่วยเพิ่มโอกาสให้งาน SEO สำเร็จ ฉันชอบใช้ Moz วางแผนอย่างละเอียด มันมีลูกเล่นเพียบ
ฟีเจอร์การวิเคราะห์ความยากช่วยฉันเลือกคำหลักที่มีโอกาสสูง Moz ทำให้รู้ว่าคำไหนแข่งสูง คำไหนเราสู้ได้ เป็นเครื่องมือสำคัญที่ควรมีในคลังเครื่องมือสำหรับทำ SEO
Moz ช่วยให้คุณรู้วิธีปรับเว็บไซต์ให้ตรงตามกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ถ้าคุณต้องการเครื่องมือที่ละเอียดและให้ข้อมูลครบ ฉันชอบ Moz เพราะมันมีลูกเล่นจัดเต็มและใช้งานง่าย
ช่วงนี้ Moz เปิดให้ใช้ฟรี ลองแล้วจะรู้ว่ามันดี สำหรับผู้ที่ต้องการปรับกลยุทธ์การทำ SEO Moz จะช่วยมากเลย ทดลองใช้ด้วยตัวเองแล้วรู้เลยว่ามันคุ้มค่าในการวิเคราะห์และพัฒนาเว็บไซต์
เครื่องมือ Keyword Research ฟรี – Keywordtoolio
คุณเคยใช้ Keywordtoolio แล้วหรือยัง? นี่คือเครื่องมือที่หลายคนชื่นชอบ! คุณสามารถหาคำค้นหาได้โดยการป้อนคำในภาษาไทย ข้อดีของเครื่องมือนี้คือมันใช้งานง่ายมาก
การค้นหาภาษาไทย
Keywordtoolio ช่วยให้การค้นหาภาษาไทยเป็นเรื่องง่าย แค่ใส่คำหรือวลีที่ต้องการ แล้วรอดูทั้งหมดที่เครื่องมือนี้สามารถค้นหาได้ให้คุณ
การใช้ Keyword Tool เพื่อขยายคำค้นหา
Keywordtoolio ช่วยคุณสร้างแนวคิดใหม่ๆ คุณสามารถขยายคำค้นหาได้ง่ายๆ ด้วยการเห็นคำอื่นที่เกี่ยวข้อง แล้วก็ใช้คำพวกนั้นในเนื้อหาของคุณเพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายของคุณ
Keywordtoolio ใช้ฟรี แต่คุณต้องลงทะเบียนเพื่อใช้งาน เวอร์ชันฟรีไม่แสดงปริมาณการค้นหา ถึงอย่างนั้น มันยังคงเป็นเครื่องมือยอดเยี่ยมสำหรับการศึกษาและเข้าใจแนวโน้มการค้นหา
สรุปและคำแนะนำในการเลือกใช้เครื่องมือ
การเลือก เครื่องมือ Keyword Research ฟรี ควรเริ่มจากความต้องการของคุณเอง ผมแนะนำให้เริ่มด้วย Google Keyword Planner สำหรับวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน มันช่วยเช็กปริมาณการค้นหาต่อเดือนได้ดี แต่มีข้อจำกัดด้านข้อมูลถ้าไม่ใช้โฆษณา Google Ads ถ้าคุณต้องการข้อมูลมากขึ้น ลองใช้ทุกโปรแกรมร่วมกัน
Google Search Console ช่วยวิเคราะห์คีย์เวิร์ดที่มีคนค้นหามาก คุณควรใช้ร่วมกับ Google Keyword Planner การใช้ Google Trends ให้ดีควรดูแนวโน้มคีย์เวิร์ดในเวลาที่คำค้นบูม
SEMrush เป็นตัวเลือกเพื่อวิเคราะห์คู่แข่ง มันวิเคราะห์คีย์เวิร์ดง่าย เชื่อถือได้ คุณควรใช้ SEMrush ถ้าต้องการทราบคู่แข่งติดอันดับด้วยคีย์เวิร์ดไหน นอกจากนี้คุณยังสามารถเช็คความยากของคีย์เวิร์ดด้วยเครื่องมือนี้
การดูความยากในการแข่งขันแนะนำให้ใช้ Moz และ Ahrefs ทั้งสองมีข้อมูลความยากและช่วยวางกลยุทธ์ ทางที่ดีควรใช้ Ahrefs ถ้าต้องการข้อมูลละเอียดพร้อมฟีเจอร์ SEO แบบครบวงจร
ลองเริ่มต้นด้วย Ubersuggest ของ Neil Patel มันฟรี 3 ครั้งต่อวัน พร้อมข้อมูลปริมาณการค้นหา KWFinder และ Wordtracker Scout เหมาะกับการค้นหา Long Tail Keyword และการขยายคีย์เวิร์ด ส่วน Keywordtoolio ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก แต่ข้อมูลปริมาณการค้นหามีข้อจำกัดในเวอร์ชันฟรี
ทุกเครื่องมือมีข้อดีเด่นต่างกัน คุณควรเลือกตามความสะดวกและความต้องการ เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้การทำ SEO เป็นเรื่องง่าย สามารถใช้งานได้ด้วยตัวเอง ทดสอบและเลือกเครื่องมือที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
สรุปเครื่องมือ Keyword Research ฟรี
เครื่องมือ Keyword Research ฟรี ช่วยสร้างแผน SEO ที่ดีได้ เราพูดถึง Google Keyword Planner, Google Search Console และ Google Trends ในบล็อกนี้ เรายังแนะนำ SEMrush และ Ubersuggest สำหรับวิเคราะห์คู่แข่ง Ahrefs, KWFinder, และ Wordtracker Scout นั้นยอดเยี่ยมสำหรับการหาคำหลัก Moz และ Keywordtool.io ก็ช่วยได้ในเรื่องความยากของคำและการค้นหาในภาษาไทย สำคัญคือเลือกเครื่องมือที่ตรงกับเป้าหมายของคุณ เพื่อสร้างการเติบโตในโลกออนไลน์