ไอโฟนรุ่นไหนดี 2026 เลือกยังไงให้เหมาะกับการใช้งานของคุณ

Apple เปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ออกมาหลายรุ่นเกือบทุกปี ทำให้หลายคนเกิดคำถามยอดฮิตว่า “ตอนนี้ควรซื้อไอโฟนรุ่นไหนดี” ถึงจะคุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งานของตัวเองได้มากที่สุด ซึ่งความจริงแล้วคำตอบ ของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับงบประมาณ ไลฟ์สไตล์ และความต้องการใช้งานเป็นหลัก
อยากซื้อ iPhone เลือกรุ่นไหนดี
มาตอบคำถามที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับไอโฟนรุ่นไหนดีที่สุด? ก่อนเลือกซื้อคุณควรพิจารณาหลายปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
1. งบประมาณที่ตั้งไว้
เพราะไอโฟนมีตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นราคาหมื่นกลาง ๆ อย่าง iPhone SE ไปจนถึงรุ่นท็อปอย่าง iPhone 15 Pro Max ที่มีราคาสูงกว่า 50,000 บาท การตั้งงบที่เหมาะสมจะช่วยคัดกรองตัวเลือกได้ง่ายขึ้น และไม่ทำให้เกินงบโดยไม่จำเป็น
2. พิจารณาความต้องการใช้งานหลัก
- ถ้าเน้นถ่ายรูปสวย ๆ หรือคอนเทนต์คุณภาพสูง รุ่นที่มีกล้อง Pro จะตอบโจทย์กว่า เช่น iPhone 15 Pro หรือ iPhone 15 Pro Max ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นไอโฟนรุ่นที่กล้องสวย
- ถ้าใช้งานทั่วไป เช่น เล่นโซเชียล ดูซีรีส์ ถ่ายรูปบ้าง รุ่นมาตรฐานอย่าง iPhone 13 หรือ iPhone 14 ก็เพียงพอและคุ้มค่า
- ถ้าอยากได้ขนาดเล็ก พกพาง่าย iPhone SE (3rd Gen) ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับหลายคน
3. ชิปประมวลผลและอายุการใช้งาน
iPhone รุ่นใหม่ ๆ จะมาพร้อมชิป A16 หรือ A17 Bionic ที่เร็วและประหยัดพลังงานกว่า เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้ระยะยาวหรือเล่นเกมหนัก ๆ แต่ถ้างบจำกัด รุ่นเก่าอย่าง iPhone 12 หรือ iPhone 13 ก็ยังถือว่าแรงและใช้งานได้อีกหลายปี
8 ไอโฟนรุ่นไหนดี 2026 ตัวท็อปใช้งานได้ยาว ๆ
แม้ว่าไอโฟนหลายรุ่นจะมีสเปกแรง แต่ถ้าไม่ตรงกับพฤติกรรมใช้งานก็อาจไม่คุ้มค่าได้เช่นกัน โดยในปี 2026 มีหลายรุ่นที่น่าสนใจ ทั้งรุ่นพรีเมียมและรุ่นมาตรฐาน บทความนี้จะพาไปรู้จักกับไอโฟน 8 รุ่นเด่น ๆ ซึ่งได้แก่
1. iPhone 17

รุ่นมาตรฐานของปีนี้ แต่มีอัปเกรดที่น่าสนใจมาก ทำให้คำถามไอโฟนรุ่นไหนดี มีคำตอบที่ไม่จำเป็นต้องเป็นรุ่น Pro เสมอไป
- หน้าจอ 6.3 นิ้ว Super Retina XDR พร้อม ProMotion 120Hz ซึ่งเคยเป็นเฉพาะรุ่น Pro มาก่อนแล้ว
- ชิป A19 รุ่นใหม่ ถูกใช้ในรุ่นนี้ด้วย ทำให้ประสิทธิภาพดีขึ้นมาก
- กล้องหลังหลักและกล้องอัลตร้าไวด์ 48 MP (ตามข้อมูลบางแหล่ง) ทำให้ถ่ายภาพได้คมขึ้น ภาพรวมสำหรับผู้ใช้ทั่วไปถือว่าครบ
- รุ่นนี้เหมาะสำหรับผู้ไม่ต้องการจ่ายเงินเกินความจำเป็น
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 29,900 บาท สำหรับความจุ 256GB
2. iPhone 17 Pro

หากมองในแง่ของฟีเจอร์ระดับสูง รุ่น Pro คือหนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่น ด้วย
- กล้องหลังแบบ 48 MP Fusion คู่/สาม (แล้วแต่รุ่น) พร้อม Ultra Wide และ Telephoto ซึ่งให้คุณภาพภาพระดับโปร
- วัสดุพรีเมียมและดีไซน์ที่เหนือขึ้น เช่น Titanium ในบางรุ่น Pro ซึ่งทำให้ทั้งทนและเบาลง
- เหมาะสำหรับผู้ที่ถ่ายภาพเป็นงานจริง เล่นเกมหนัก หรือใช้มือถือเป็นเครื่องมือมืออาชีพ
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 43,900 สำหรับรุ่นความจุ 256 GB
3. iPhone 17 Pro Max

สุดยอดรุ่นสำหรับผู้ที่ไม่อยากยอมลดสเปกใด ๆ ที่มาพร้อมกับ
- หน้าจอใหญ่ 6.9 นิ้ว พร้อมความละเอียดสูงและรีเฟรชเรต 120Hz เหมาะสำหรับดูหนัง เล่นเกม หรือทำงาน multitask
- ระบบกล้องที่อัปเกรดให้มากขึ้นทั้ง Telephoto ที่ซูมไกลขึ้น และชิปประมวลผลใหม่ที่รองรับงานหนักๆ ได้ดีขึ้น
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 48,900 บาท สำหรับความจุ 256GB
4. iPhone 16

แม้ว่าจะเป็นรุ่นก่อนหน้า แต่ในปี 2026 ยังถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า สำหรับคนที่มีงบจำกัด
- สเปกที่ยังแกร่ง เช่น ชิป A18 ในรุ่นมาตรฐาน และ A18 Pro ในรุ่น Pro ของ 16 ซีรีส์
- ราคาลดลงจากช่วงเปิดตัว ทำให้ได้เครื่องที่แรงใช้ได้ในงบที่น้อยกว่ารุ่นใหม่สุด
- เหมาะกับคนที่ไม่ได้เน้นฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด แต่ต้องการเครื่องใช้งานดี ใช้ได้หลายปี
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 29,900 สำหรับ 128 GB
5. iPhone 16 Plus

รุ่น Plus ของซีรีส์ 16 เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหน้าจอใหญ่ และแบตเตอรี่ใช้งานได้นาน โดยไม่ต้องจ่ายแพงเท่ารุ่น Pro โดยสเปคของเครื่องยังมี
- ขนาดหน้าจอ 6.7 นิ้ว Super Retina XDR OLED ซึ่งให้พื้นที่การใช้งานมากขึ้น เหมาะสำหรับดูหนัง เล่นเกม หรือใช้งานหลายแอปพร้อมกัน
- ชิป A18 (หรืออุปกรณ์ที่ใกล้เคียง) ทำให้ประสิทธิภาพดีขึ้นและรองรับซอฟต์แวร์ในระยะยาว
- กล้องหลัง 48 MP + อัลตร้าไวด์ 12 MP (บางแหล่ง) พร้อมพอร์ต USB-C และแบตเตอรี่อึดขึ้น
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 29,900 บาท สำหรับความจุ 128GB
6. iPhone 16 Pro

ดีไซน์ตัวเครื่องวัสดุไทเทเนียม (Titanium) พร้อมกระจกหน้าแบบ Ceramic Shield และด้านหลังแบบกระจกด้าน (Matte Glass) ซึ่งช่วยให้ตัวเครื่องดูพรีเมียมและน้ำหนักเบากว่าวัสดุบางรุ่นทั่วไป
- หน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว แบบ Super Retina XDR OLED พร้อมอัตรารีเฟรชสูงสุด 120 Hz (ProMotion) ให้ภาพลื่นและการแสดงผลสีคมชัด เหมาะกับทั้งการเล่นเกม ดูหนัง และใช้งานทั่วไป
- ชิป Apple A18 Pro ประสิทธิภาพแรง รองรับการใช้งานหนักและอัปเดตนาน
- กล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่ กล้องหลัก 48 MP, กล้องอัลตร้าไวด์ 48 MP และกล้องเทเลโฟโต้ซูม Optical 5× พร้อม LiDAR scanner
- รองรับความจุสูงสุดถึง 1 TB ซึ่งเหมาะมากสำหรับสายคอนเทนต์ครีเอเตอร์หรือผู้ที่เก็บวิดีโอคุณภาพสูงจำนวนมาก
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 39,900 บาท สำหรับรุ่น 128 GB
7. iPhone 14

รุ่นที่เปิดตัวก่อนหน้า แต่ยังใช้งานได้ดีและคุ้มค่าในปีนี้ ขอยกให้กับ iPhone 14 เครื่องนี้เลย
- หน้าจอ 6.1 นิ้ว Super Retina XDR OLED ความละเอียด 2532×1170
- ชิป A15 Bionic และกล้องคู่ที่ยังให้ภาพคุณภาพดีในปี 2025–26
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 17,900 บาท สำหรับความจุ 128GB
8. iPhone 13

รุ่นที่อายุออกมาหลายปีแล้ว แต่ยังใช้งานได้ดี เหมาะกับคนที่มองหา iPhone รุ่นไหนดีในงบที่ประหยัดลง
- หน้าจอ 6.1 นิ้ว Super Retina XDR OLED
- ชิป A15 Bionic ซึ่งในปี 2025–26 ยังถือว่าแรงใช้ได้
- เหมาะกับคนที่ต้องการใช้โทรศัพท์ในชีวิตประจำวันทั่วไป
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 15,790 บาท สำหรับความจุ 128GB
ไอโฟนรุ่นไหนดีในปี 2026
มาถึงคำถามที่หลายคนยังคงสงสัยว่า “ไอโฟนรุ่นไหนดีในปี 2026?” คำตอบขึ้นอยู่กับงบประมาณและลักษณะการใช้งานของแต่ละคน เพราะในตอนนี้ Apple มีตัวเลือกให้ครอบคลุมทุกความต้องการ ตั้งแต่รุ่นโปรระดับพรีเมียมไปจนถึงรุ่นประหยัดที่ยังแรงเกินพอ
โดยถ้าคุณอยากได้รุ่นที่ดีที่สุด กล้องสวยสุด และประสิทธิภาพสูงสุด แนะนำเลือกซื้อ iPhone 17 Pro Max หรือ iPhone 17 Pro ที่อัดแน่นด้วยชิป A18 Pro กล้องระดับโปร และดีไซน์พรีเมียม สำหรับคนที่มองหาความคุ้มค่าในราคากลาง ๆ iPhone 16 หรือ iPhone 16 Plus ถือเป็นตัวเลือกยอดนิยมที่รวมทั้งดีไซน์ใหม่และสเปกแรงในงบไม่ถึงสามหมื่น
ส่วนใครงบจำกัด แต่อยากได้เครื่องคุณภาพดี ใช้งานลื่นไหล iPhone 14 หรือ iPhone 13 ก็ยังเป็นคำตอบที่ดีในปี 2026 สำหรับสายมินิมอล ชอบเครื่องขนาดเล็กและราคาย่อมเยา iPhone SE (3rd Gen) ยังคงเป็นรุ่นที่เหมาะสมที่สุด
